วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558
คำทักทาย
คำทักทายเบื้องต้นตามเวลาต่างๆของวันในภาษามลายู
-Selamat pagi (เซอลามัต ปากี)
(อรุณสวัสดิ์ (ใช้กล่าวทักทายเหมือนคำว่าสวัสดีหรือ good morning ในภาษาอังกฤษ ใช้กล่าวทักทายตั้งแต่ตอนรุ่งเช้าวันใหม่ไปจนถึงก่อนเที่ยงวัน)
-Selamat pagi (เซอลามัต ปากี)
(อรุณสวัสดิ์ (ใช้กล่าวทักทายเหมือนคำว่าสวัสดีหรือ good morning ในภาษาอังกฤษ ใช้กล่าวทักทายตั้งแต่ตอนรุ่งเช้าวันใหม่ไปจนถึงก่อนเที่ยงวัน)
- Selamat tengah hari(เซอลามัต
เตอะงา ฮารี)
(สวัสดีตอนกลางวัน (สามารถใช้ทักทายได้ระหว่างเวลาจากเที่ยงวันไปจนถึงช่วงบ่ายประมาณ 14.00น)
(สวัสดีตอนกลางวัน (สามารถใช้ทักทายได้ระหว่างเวลาจากเที่ยงวันไปจนถึงช่วงบ่ายประมาณ 14.00น)
- Selamat petang (เซอลามัต เปอตัง)
สวัสดีตอนบ่าย (ใช้กล่าวทักทายตั้งแต่ช่วงบ่ายจากเวลาประมาณ 14.01 ไปจนถึงหัวค่ำเวลาประมาณ 19.00น)
- Selamat malam (เซอลามัต
มาลาม)
(สวัสดี ราตรีสวัสดิ์ (ใช้ทักทายในตอนกลางคืนไปจนถึงเที่ยงคืนและยังใช้ในความหมายของราตรีสวัสดิ์ได้ด้วย เปรียบได้กับคำว่า good night ในภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน)
(สวัสดี ราตรีสวัสดิ์ (ใช้ทักทายในตอนกลางคืนไปจนถึงเที่ยงคืนและยังใช้ในความหมายของราตรีสวัสดิ์ได้ด้วย เปรียบได้กับคำว่า good night ในภาษาอังกฤษเช่นเดียวกัน)
การใช้คำพูดในการลาจาก
- Selamat jalan (เซอลามัต
จาลัน)
(ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
(ผู้ที่ใช้คำนี้คือเจ้าของบ้านกล่าวกับแขกหรือผู้มาเยือนเมื่อแขกคนดังกล่าวจะลากลับ
หรือผู้ที่อยู่ประจำที่ไหนสักแห่งกล่าวแก่ผู้ออกเดินทางจากณที่นั้นไปยังสถานที่ใดก็ตาม)
- Selamat tinggal (เซอลามัต ติงกัล)
(ขอให้อยู่อย่างมีความสุข (ผู้ที่ใช้คำนี้คือแขกหรือผู้มาเยือนกล่าวกับเจ้าของบ้านหรือผู้ที่อยู่ณสถานที่ใดก็ตาม เมื่อตัวเองต้องลาจากสถานที่นั้นๆไปยังที่ใดก็ตาม)
- Selamat tinggal (เซอลามัต ติงกัล)
(ขอให้อยู่อย่างมีความสุข (ผู้ที่ใช้คำนี้คือแขกหรือผู้มาเยือนกล่าวกับเจ้าของบ้านหรือผู้ที่อยู่ณสถานที่ใดก็ตาม เมื่อตัวเองต้องลาจากสถานที่นั้นๆไปยังที่ใดก็ตาม)
- Selamat datang (เซอลามัต
ดาตัง)
(ยินดีต้อนรับ ขอต้อนรับ)
บทสนทนา
(ยินดีต้อนรับ ขอต้อนรับ)
บทสนทนา
A: Maafkan saya. Saudara nama siapa?
มาอัฟกัน
ซายา เซาดารา
นามา สิอปา?
(ขอโทษค่ะ
คุณชื่ออะไรคะ?)
B: Nama saya Fateemah. Saya pelajar murid,Sekolah Tha-it suksa .
นามา
ซายา ฟาตีมะห์ .ซายา เปอลาจันรฺ มูริด. เซอโกละห์ท่าอิฐ  ศึกษา
(ฉันชื่อฟาตีมะห์ ฉันเป็นนักเรียนที่โรงเรียนท่าอิฐศึกษา)
A: Saya seorang perlajar.Sekolah Tha-it suksa  juga.
ซายา
เซอโอรัง เปอลาจันรฺ เซอโกละห์ ท่าอิฐ  ศึกษา จุกา
(ฉันก็เป็นนักเรียนที่โรงเรียนท่าอิฐศึกษาเหมือนกันค่ะ)
B: Baik.
ไบคฺ
(เหรอค่ะ)
B: Siapakah nama saudara?
ซิอปาคะ
นามา เซาดารา?
(คุณชื่ออะไรคะ?)
A: Nama saya Ateekah.
นามา
ซายา อาตีดะห์
(ชื่ออาตีกะห์ค่ะ)
 A: Anda datang dari mana?
อันดา
ดาตัง ดารี มานา?
(คุณมาจากไหนค่ะ?)
B :Saya datang dari Pathumtani.
ซายา
ดาตัง ดารี ปะทุมทานี
(ฉันมาจากปทุมธานีค่ะ)
A: Anda orang Thai-Muslimkah?
อันดา
โอรัง ไท มุสลิมกะห์?
(คุณเป็นคนไทยมุสลิมใช่ไหมคะ?)
B: Ya. Saya seorang Thai-Muslim dari  Pathumtani.
ยา
ซายา เซอโอรัง ไทย มุสลิม ดารี ปะทุมทานี
(ใช่แล้วค่ะ
ฉันเป็นคนไทยมุสลิมมาจากปทุมธานี)
ข้อควรจำสำหรับบทสนทนาการถามชื่อและการแนะนำตัวเองภาษามลายู
*คำสรรพนามที่เป็นคำถามเช่น siapa หากนำมาขึ้นต้นประโยคจะต้องเติม kah เข้าที่ท้ายคำเป็น siapakah 
สุภาษิต
สุภาษิต หรือ  pepatah  ในภาษามลายูนั้น  หมายถึง ข้อความสั้นๆ กะทัดรัด แต่มีความหมายชัดเจนลึกซึ้ง มีคติสอนใจ
หรือให้ความจริงเกี่ยวกับความคิดและแนวปฏิบัติของชนชาติหนึ่งๆ ซึ่งสามารถพิสูจน์
เชื่อถือได้ ซึ่งมีการถ่ายทอดและสอนสั่งในสังคมๆหนึ่ง   นอกจากนี้สุภาษิตยังเป็นเสมือนคลังสั่งสมภูมิปัญญา
มุมมองและทัศนะคติต่อการดำรงชีวิตของกลุ่มชนๆหนึ่งอีกด้วย
ชนชาวมลายูก็เป็นกลุ่มชนหนึ่งที่มีการใช้สุภาษิตในการแสดงออกถึงมุมมองในการดำรงชีวิต
อีกทั้งยังถูกใช้เพื่อการสอนสั่งและตักเตือนสมาชิกในกลุ่มชนของพวกเขาให้ดำรงตนอยู่บนครรลองที่ถูกต้อง
เป็นที่ยอมรับของสังคมและกลุ่มชน
ดังนั้นการเรียนรู้สุภาษิตถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับชนชาวมลายูเองในฐานะที่เป็นผู้สืบทอดภาษาและวัฒนธรรมประเพณีมลายู
| 
Pepetah Melayu Rumi | 
ففاته ملايو جاوي | 
คำอ่าน | 
ความหมาย | 
| 
1.Ada
  air, ada ikan | 
اد اير اد ايكن | 
อาดา ไอร์ อาดา อีกัน | 
(มีน้ำ  มีปลา ) หมายถึง  มีประเทศก็ย่อมต้องมีราษฎร | 
| 
2.Ada
  angin,ada pokoknya | 
اد اڠين اد فوكوءڽ | 
อาดา
  อางิน อาดา 
โปโก๊กยา | 
(มีลม
  มีต้นตอของมัน) หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมต้องมีจุดเริ่มต้นของมัน | 
| 
3.Ada
  gula adalah semut | 
اد ݢولا اداله سموت | 
อาดา ฆูลา อาดาละห์ 
เซอมุต | 
(มีน้ำตาล  ก็มีมด) หมายถึง
  สถานที่ซึ่งหาริสกีรายได้ได้ง่าย สถานที่นั้นย่อมมีผู้คนรวมตัวอยู่กันมากมาย | 
| 
4.Adakah
  buaya menolak bangkai? | 
اداكه بوايا منولق بڠكاي | 
อาดากะห์
  บัวยา เมอโนลัก บังไก? | 
(จระเข้จะปฏิเสธซากศพไหม)
  หมายถึง คนชั่วย่อมไม่ทิ้งโอกาสที่จะทำความเลว | 
| 
5.Ada
  padi semua kerja jadi | 
اد فادي سموا كرج جادي | 
อาดา ปาดี เซอมัว เกิรญา ญาดี | 
(มีข้าวเปลือก งานทั้งหมดก็เป็นไปได้) หมายถึง
  การงานหนึ่งๆนั่นจะทำได้อย่างรวดเร็วถ้าหากมีค่าจ้างที่เพียงพอ | 
| 
6.Ada
  udang di sebalik batu | 
اد اودڠ دسباليق باتو | 
อาดา
  อูดัง ดี เซอบาลิก 
บาตู | 
(มีกุ้งอยู่หลังหิน)
  หมายถึงมีวัตถุประสงค์บางอย่างซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังการกระทำหนึ่งๆ | 
| 
7.Air
  dicencang tidak akan putus | 
اير دچينچڠ تيدق اكن فوتوس | 
ไอร์ ดีเจนจัง ตีดัก อากัน 
 ปูตุซ | 
(น้ำที่ฟันไม่ขาด)
  หมายถึงการทะเลาะวิวาทระหว่างพี่น้องนั้นไม่ยาวนาน | 
| 
8.Air
  pun ada pasang surutnya | 
اير فون اد فاسڠسوروتڽ | 
ไอร์
  ปูน อาดา ปาซัง ซูรุตยา | 
(น้ำยังมีขึ้นมีลง)
  หมายถึง สภาพชีวิตของคนเราที่ไม่แน่นอน มีทั้งสุขและมีทั้งทุกข์ | 
| 
9.Alah
  sabung , menang sorak | 
اله سابوڠ منڠ سورق | 
อาละห์ ซาบุง เมอนัง โซรัก | 
(ชนแพ้ ชนะโห่ร้อง) หมายถึงพ่ายแพ้ในการต่อสู้
  แต่ยังคงพูดจาใหญ่โต | 
| 
10.Alang-alang
  mandi biar basah | 
الڠ- الڠ مندي بيار باسه | 
อาลังๆ
  มันดี เบียร์ บาซะห์ | 
(ไหนๆจะอาบน้ำ
  ก็เอาให้เปียก) หมายถึง ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็จงทำให้สำเร็จลุล่วงไป | 
| 
11.Ayam
  baru belajar berkokok | 
ايم بارو بلاجر بركوكوء | 
อายัม บารู เบอลาญัร 
 เบิรโกโก๊ก | 
(ไก่เพิ่งหัดขัน)  หมายถึง เพิ่งจะบรรลุนิติภาวะ | 
| 
12.Ayam
  bertelur di atas padi, mati kelaparan | 
ايم برتلور د ٲتس فادي ماتي كلافران | 
อายัม
  เบิรเตอลุร ดี อาตัซ ปาดี มาดี เกอลาปารัน | 
(ไก่ออกไข่บนข้าวเปลือก
  ตาย อดอยาก) หมายถึง
  อยู่อย่างเร้นแค้นถึงแม้ว่าจะมีรายได้มากมาย/หรือมีสามีหรือภรรยาที่ร่ำรวย | 
| 
13.Bagaimana
  acuan begitulah kuihnya | 
باݢايمان اچوان بݢيتوله كوءيهڽ | 
บาไฆมานา อาจูวัน 
เบอฆีตูละห์ กูวิฮ์ยา | 
(แม่พิมพ์เป็นอย่างไร ขนมก็เป็นอย่างนั้น)
  หมายถึงพ่อแม่มีอุปนิสัยอย่างไร ลูกๆก็มีอุปนิสัยเช่นนั้น | 
| 
14.Bahasa
  menunjukkan bangsa | 
بهاس منونجوقكن بڠسا | 
บาฮาซา  เมอนุนญุกกัน 
 บังซา | 
(ภาษาบ่งบอกเชื้อชาติ)
  หมายถึง ภาษาแสดงถึงความสูงส่งหรือความต่ำต้อยของขนชาติหนีงๆนั้น | 
| 
15.Bakar
  air hendakkan abu | 
باكر اير هندقكن ابو | 
บากัร ไอร์ เฮินดักกัน อาบู | 
(เผาน้ำต้องการเอาขี้เถ้า) หมายถึง ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ | 
| 
15.Bangkai
  gajah bolehkah ditudung dengan nyiru | 
بڠكاي ݢاجه بوليهكه دتودوڠ دڠنڽيرو | 
บังไก
  ฆาญะห์ โบเละห์กะห์ ดีตูดง เดองัน ยีรู    | 
(ซากช้างตาย
  จะสามารถคลุมด้วยกับลิ้มไผ่กระนั้นหรือ) หมายถึงความผิดที่ใหญ่หลวงซีงไม่สามารถปกปิดจากการไม่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ได้ | 
| 
16.Banyak
  udang banyak garam , banyak orang banyak ragam | 
باڽق اودڠ باڽقݢارم 
باڽق اورڠ باڽق راݢم | 
บายัก อูดัง บายัก ฆารัม 
บายัก อูรัง บายัก ราฆัม  | 
(กุ้งมาก เกลือมาก คนมาก รูปแบบมาก)
  หมายถึงทุกคนย่อมมีความชื่นชอบ ความต้องการ และทัศนะที่แตกต่างกัน | 
| 
17.Belakang
  parang kalau diasah nescaya tajam | 
بلاكڠ فارڠ كالاو داسه نسچاي تاجم | 
เบอลากัง
  ปารัง กาเลา 
ดีอาซะห์  เนิซจายา ตาญัม | 
(หลังมีดพร้าหากถูกลับก็ย่อมคมได้)
  หมายถึง คนที่แม้ว่าจะโง่เขลาเพียงใด หากได้รับการอบรบสั่งสอนเขาก็ย่อมเก่งได้ | 
| 
18.Belum
  disuruh sudah pergi, belum dipanggil sudah datang | 
بلوم دسوروه سوده فرݢي بلوم دفڠݢيل سوده داتڠ | 
เบอลุม ดีซูรุฮ์  ซูดะห์ เปิรฆี เบอลุม ดีปังฆิล ซูดะห์ 
ดาตัง | 
(ยังไม่ได้สั่ง ก็ไปแล้ว ยังไม่ได้เรียกก็มาแล้ว) หมายถึง
  คนที่รอบรู้และขยันขันแข็ง | 
| 
19.Belum
  duduk sudah berlunjur | 
بلوم دودوق سوده برلونجور | 
เบอลุม
  ดูดุก ซูดะห์ 
เบิรลุนญุร | 
(ยังไม่ทันได้นั่ง
  ก็เหยียดเท้าเสียแล้ว) หมายถึงยังไม่ทันได้รับในสิ่งที่ต้องการ
  แต่รู้สึกดีใจเสียแล้ว | 
| 
20.Berani
  kerana benar, takut kerana salah | 
براني كران بنر تاكوت كران ساله | 
เบอรานี เกอรานา เบอนัร 
ตากุต เกอรานา ซาละห์ | 
(กล้าเพราะถูก กลัวเพราะผิด) หมายถึงกระทำการหนึ่งๆเนื่องจากตั้งอยู่บนความถูกต้อง | 
ที่มา : http://khaldundun.blogspot.com/search?updated-max=2015-02-24T18:09:00-08:00&max-results=7
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)
